#เมืองเชียงแสนแตก
เมื่อปี พ.ศ.2347 จากการทำศึกโดยทัพเหนือ คือ ทัพเชียงใหม่นำโดยเจ้ากาวิละ และทัพพันธมิตร และทัพใต้นำโดยกรมหลวงเทพหริรักษ์ และเจ้าพระยายมราชแห่งทัพกรุงเทพ และทัพลาวเวียงจันทร์ เข้าโจมตีเมืองเชียงแสนเพื่อทำลายฐานที่มั่นของพม่าในล้านนา
ในการศึกนั้น ชาวเชียงแสนบางส่วนรู้เห็นเป็นใจให้กองทัพเข้ามาตีเมืองเชียงแสน ดังมีบันทึกในคร่าวเชียงแสนแตกที่ว่า “…พวกเชียงแสน ชวนกันเล่นเลี้ยว เข้ามาฆ่า นายทวาร พร่องปืดง้าง ประตูกระบาน บ่มีนาน รือรุดร่วนก้อง…”
เมื่อเชียงแสนแตกแล้ว ขับไล่พม่าได้สำเร็จ เพื่อการป้องกันไม่ให้พม่าย้อนกลับมาใช้เชียงแสนเป็นฐานที่มั่นอีกครั้ง จึงต้องเผา ทำลาย และกวาดต้อนผู้คนออกจากเมืองเชียงแสนในฐานะเชลยศึก และมีการแบ่งครัวชาวเชียงแสนเป็น 5 ส่วน ดังที่กล่าวไว้ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ที่ว่า
“….กองทับกวาดได้ครอบครัวสองหมื่นสามพันเสศ รื้อกำแพงเผาบ้านเมืองเสีย แล้วแบ่งปันครอบครัวกันเปนห้าส่วน ให้ไปแก่เมืองเชียงใหม่ส่วนหนึ่ง เมืองนครลำปางส่วนหนึ่ง เมืองน่านส่วนหนึ่ง เมืองเวียงจันทร์ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งถวายลงมา ณ กรุงเทพฯ โปรดให้ตั้งบ้านเรือนอยู่เมืองสระบุรี แบ่งไปเมืองราชบุรีบ้าง…”
สำหรับเมืองเชียงใหม่นั้น พระเจ้ากาวิละได้นำครัวชาวเชียงแสนมาไว้ที่ บ้านฮ่อม บ้านเมืองสาทร บ้านเจียงแสน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วชาวเชียงแสนจะมีฝีมือในเชิงช่าง เมื่อมาเชียงใหม่ก็ได้สร้างวัดหลายวัด เช่น วัดอู่ทรายคำ วัดช่างดอกเงิน วัดดอกคำ เป็นต้น ส่วนเมืองลำปางนั้น ได้เอาคนมาไว้ที่วัดปงสนุก วัดเชียงราย ทางด้านเมืองน่านส่วนใหญ่จะไปไว้แถว อ.เวียงสาในปัจจุบัน เป็นต้น
ส่วนคนยวนที่อยู่ไกลที่สุด คือ ชาวยวนเวียงจันทร์ ยวนราชบุรี ยวนสระบุรี และก็มีการขยายชุมชนจากเสาไห้ จ.สระบุรี ไปยังสีคิ้วอีกต่อหนึ่ง
ชาวเชียงแสนในเมืองพิษณุโลก : ชาวเชียงแสนที่อพยพตั้งถิ่นฐานอยู่เมืองราชบุรีและภายหลังค่อยๆ ขยัยขยายบุกเบิกพื้นที่ทำกินย้อนขึ้นมาในเมืองนครปฐม ช่วงประมาณหลัง พ.ศ.2400 เป็นต้นมาได้ขยับขยายต่อย้อนขึ้นเหนือมาถึงเมืองพิษณุโลก ได้ตั้งหมู่บ้านกรรมธรรม์ บ้านดงประโดก บ้านสมอแข(ชุมแสง) และบ้านลาดบัวขาว(ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก)
ชาวเมืองเชียงแสนในเมืองสงขลา : เมืองสงขลามีชาวไทยวนและอาจมีชาวไทลื้อด้วยกลุ่มหนึ่ง ถูกกวาดต้อนแบ่งในส่วนของกองทัพสยามและได้จัดแบ่งไปไว้ที่เมืองสงขลา สันนิษฐานว่าเป็นการกวาดต้อนครั้งใหญ่ใน พ.ศ.2347 เนื่องจากหลังจากนี้ไม่ปรากฎการกวาดต้อนชาวไทยวนไปไว้ในสยามอีกเลย ซึ่งปรากฎหลักฐานมี ชาวไทยวนที่เมืองสงขลาบางคนพยายามหนีกลับมาในล้านนา เช่น หนานไชยวัณณา(ต้นสกุล ไชยวัณณ์) รู้สึกคิดถึงถิ่นฐานบ้านเมือง การทำมาหากินและขนบธรรมเนียมต่างๆ ไม่เหมือนกับบ้านเมืองเดิม จึงได้หนีออกจากเมืองสงขลาเดินด้วยเท้ากลับมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่บ้านแป้น เมืองนครลำพูน ที่ตั้งถิ่นฐานในเมืองลำพูร สันนิษฐานว่าเพราะขณะนั้นเมืองเชียงแสนบ้านเมืองเดิมยังไม่ได้ฟื้นฟู และมีชาวเชียงแสนบางส่วนอยู่ในเมืองลำพูน จึงได้ตั้งถิ่นฐานในเมืองลำพูนอย่างถาวรสืบมาจนถึงปัจจุบัน
Cr. เรียบเรียงข้อมูลจากเรื่องยวนผู้นิราศร้างห่างมาตุภูมิ
#Retroclubthailand