แชร์

พระร่วงหลังรางปืน 2

ในหนังสืออมตะพระกรุ ต้อย เมืองนนท์ เริ่มต้นเรื่อง พระร่วงหลังรางปืน ว่า แตกกรุจากวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองศรีสัชนาลัย (เชลียง เชียงชื่น สวรรคโลก) บริเวณหน้าพระปรางค์องค์ใหญ่ เมื่อราวๆ 60 ปีที่แล้ว มีจำนวนไม่เกิน 200 องค์ พระสภาพดี มีราวๆ 100 องค์ เพราะกว่าครึ่งชำรุด

สถานที่พบพระคือเมืองศรีสัชนาลัย เคยเป็นเมืองขึ้นของขอม ว่ากันโดยศิลปะ เป็นขอมสมัยบายน อายุกว่า 800 ปี ต้อย บอกว่า พุทธลักษณะเป็นพระยืนประทานพรอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว ยอดซุ้มเป็นลายกนก แบบซุ้มกระจัง ด้านหลังองค์พระ มีร่องกดลึกลงไป เป็นร่องยาวตามองค์พระ จึงเป็นที่มาของคำเรียก พระร่วงหลังรางปืนเนื้อพระเป็นตะกั่วส่วนใหญ่ เนื้อชินมีน้อยมาก เนื้อดินไม่พบเลย

ผิวพระบางองค์สีแดงเข้ม บางองค์สีลูกหว้า มีไขขาวแซมหนากว่าพระร่วงกรุอื่นๆพระร่วงกรุนี้ แม้มีจำนวนน้อย แต่ก็แยกได้ถึงห้าพิมพ์ พิมพ์ใหญ่ฐานสูง พิมพ์ใหญ่ฐานเตี้ย พิมพ์แก้มปะ พิมพ์หน้าหนุ่ม พิมพ์เล็กขนาดพิมพ์ใหญ่โดยทั่วไป สูงราว 8 ซม.กว้างราว 2.5 ซม.พระร่วงรางปืน ศิลปะสง่าผึ่งผาย ทั้งชื่อทั้งรูปลักษณ์ ต้องตาต้องใจนักนิยมพระรุ่นเก่า มาถึงรุ่นใหม่ พระแท้สภาพสมบูรณ์ ราคาจึงแพงที่สุด เมื่อเทียบกับพระชุดเดียวกันแน่นอน ของแท้มีน้อยราคาแพง ของปลอม หลายต่อหลายฝีมือ จึงมีออกลองตา คนดูพระร่วงรางปืนแท้ก็น้อยลง คนรักพระรุ่นใหม่

พิมพ์ด้านหน้าติดรายละเอียดทุกช่อชั้น ส่วนที่นูนสูง สีสนิมแดงเข้มเหมือนลูกหว้า ฉ่ำซึ้งตามธรรมชาติ ลึกลงไปในพื้นผนัง ไขขาวขุ่นยังเห็นเป็นเค้า องค์พระสนิมแดง ตัดพื้นผนังเป็นฉากหลังสีขาว ช่วยขับองค์พระให้นูนเด่น

เท่าที่เล่าลือกัน ตอนพระร่วงหลังรางปืนแตกกรุออกมาใหม่…ว่ากันว่าจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เจ้าของประโยคอมตะ “ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบแต่ผู้เดียว…” เคยห้อยไว้ในคอ

หน้าแรกของหนังสือพระเครื่องเมืองสุโขทัย ที่ชมรมอนุรักษ์พระเครื่องพระบูชา จังหวัดสุโขทัยจัดพิมพ์ มีภาพนายเกษม พานิชกิจ ราษฎรชาวสุโขทัย ทูลเกล้าฯถวาย พระร่วงหลังรางปืน แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่วัดพระปรางค์ จังหวัดสุโขทัย เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2501

พระร่วงหลังรางปืน ถูกเทิดทูนให้เป็นพระเครื่องมีค่า ที่ชาวศรีสัชนาลัย ทูลเกล้าฯถวาย ด้วยความภูมิใจ เป็นเกียรติ ประวัติของจังหวัดสุโขทัย…ชาวสุโขทัยไม่เคยลืม.

Loading

Scroll to Top